
ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-Signature)
ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e‑Signature) หากเข้าเงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนดไว้ใน พระราชบัญญัติธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 ตามมาตรา 26 บัญญัติว่า “…ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ให้มีผลตามกฎหมาย ถ้าใช้วิธีการที่สามารถระบุตัวผู้ลงลายมือชื่อได้อย่างน่าเชื่อถือ และแสดงว่าบุคคลนั้นตกลงหรือยินยอมในข้อความที่อยู่ในเอกสารอิเล็กทรอนิกส์นั้น…”ตามมาตราดังกล่าวจึงทำให้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e‑Signature) ผลทางกฎหมาย คือ มีผลผูกพันตามกฎหมาย เท่ากับลายมือชื่อปกติ, ใช้เป็นพยานหลักฐานในศาลได้และนำไปฟ้องร้องได้จริง หากสามารถพิสูจน์ตัวบุคคล และความยินยอมได้ชัดเจน โดยสามารถแบ่งประเภทตามลักษณะของ e-Signature ได้ดังนี้
1. Simple e-Signature (SES) คือ วิธีง่าย ๆ เช่น พิมพ์ชื่อ คลิกปุ่ม “ตกลง” เช่น ลายเซ็นพิมพ์ชื่อท้ายอีเมล
2. Advanced e-Signature (AES) คือ การระบุผู้ลงนามชัดเจนและสามารถตรวจสอบความถูกต้องได้ เช่น เซ็นผ่าน Adobe Sign พร้อม OTP
3. Qualified e-Signature (QES) คือการผ่านหน่วยงานรับรอง (CA) เช่น Digital Certificate โดย ETDA หรือระบบ PKI
เรามักจะพบเห็นการใช้ e-Signature ได้ทั่วไป เช่น ทำสัญญาเช่าทรัพย์ กู้ยืม ,การลงนามในเอกสารราชการ/ภาษี (ผ่านระบบ D.DOPA หรือ EDTA) หรือระบบธนาคาร เช่นการเซ็นกู้เงินออนไลน์
ทั้งยังมีคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8089/2556 ซึ่งกล่าวถึง “การลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์” และการแสดงเจตนาในการทำธุรกรรมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีสาระสำคัญ และ มุมมองทางกฎหมาย ดังนี้
สาระสำคัญของคำพิพากษา 8089/2556
ข้อเท็จจริงของคดี คือ จำเลยใช้บัตรกดเงินสดของบริษัททางการเงิน ไปกดเงินผ่าน ตู้ ATM โดยการกดเงินต้องใช้ บัตรและรหัสผ่าน (PIN) ที่รู้เฉพาะผู้ถือบัตรเท่านั้น บริษัทเจ้าของบัตรจึงฟ้องเรียกเงินคืนตามยอดที่กดไป พร้อมดอกเบี้ย โดยหากศึกษาตามคำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าวจะเห็นได้ว่ามีทางกฎหมายเกี่ยวกับคดีนี้ ดังนี้
1. การกดรหัสผ่านและกดปุ่มยืนยันที่ตู้ ATM เทียบเท่า “ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์” ศาลวินิจฉัยว่า การกระทำดังกล่าวเป็น การแสดงเจตนาที่ชัดเจน ของเจ้าของบัตรในการทำธุรกรรมการเงิน จึงถือว่าเป็นการ ลงลายมือชื่อทางอิเล็กทรอนิกส์ ตามนิยามของ พระราชบัญญัติธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 มาตรา 9 และ 26
2. ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์มีผลทางกฎหมาย ข้อมูลที่ออกจากตู้ ATM เช่น เวลา / จำนวนเงิน / สถานที่ ถือว่าเป็น พยานหลักฐานที่เชื่อถือได้ อีกทั้งไม่มีเหตุให้จำเลยปฏิเสธความรับผิดจากการใช้บัตรของตนเอง แม้จะอ้างว่าไม่ได้กดเอง หากไม่มีหลักฐานแสดงว่าบัตรถูกขโมยหรือใช้โดยมิชอบ
3. คำวินิจฉัยเกี่ยวกับภาระหนี้ โดยศาลตัดสินให้ จำเลยต้องชำระเงินที่กดออกไปทั้งหมด พร้อมดอกเบี้ยตามที่สัญญาเนื่องจากถือว่าได้กระทำโดยชอบด้วยเจตนา และถือเป็น การก่อหนี้โดยชอบด้วยกฎหมาย
ติดต่องาน ขอทราบค่าบริการ
คดีความ / รับว่าความ
ที่ปรึกษากฎหมาย
ร่างข้อบังคับและสัญญาทั้งThai/Eng
สอบถามค่าบริการได้ทาง
Line@ คลิ๊ก : https://lin.ee/ltTK0H1
ทนายนำชัย พรมทา โทร : 086 331 4759
ทนายสถิตย์ อินตา โทร : 083 568 1148
ติดตามข่าวสารของเราได้ทาง
Facebook : สำนักกฎหมายนำชัย พรมทา
Youtube : https://www.youtube.com/@numchailawyer_channel
เว็บไซต์ : https://numchailawyer.com/
อ่านบทความทั้งหมด : https://numchailawyer.com/blog/
E-mail : numchailaw.office@gmail.com
#สำนักกฎหมายนำชัยพรมทา, #กฎหมาย, #นำชัยพรมทา, #บทความกฎหมาย, #คลังความรู้กฎหมาย, #ปรึกษากฎหมายฟรี, #ปรึกษาด้านกฎหมาย, #จ้างทนายความ, #ทนายคดีอาญา, #ทนายคดีแพ่ง, #จ้างทนายความ, #ฟ้องเรียกค่าเลี้ยงดู, #ผู้ถือหุ้นฟ้องกรรมการบริษัท,