ปัญหาของกรรมการผัวเมีย 1
ช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวแนวธรรมชาติทั้งหลายชื่นชอบเพราะเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติหลายๆที่กำลังสวยงาม อากาศดี ในขณะที่ทุกคนกระตือรือร้นเพื่อที่จะได้ไปเที่ยว ผมเองก็ตั้งใจว่าจะไปเที่ยวที่อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ที่ๆผมชื่นชอบกับธรรมชาติที่นั่นมากๆ
ผมเก็บกระเป๋าเสร็จตั้งแต่ตอนกลางคืน กะว่าตื่นเช้าจะออกเดินทาง ขับรถสบายๆชมวิวทิวทัศน์สองข้างทางอย่างสบายใจ ตื่นเช้ามาเฮียตี๋ ลูกค้า วีไอพี ของผมโทรมาแต่เช้า “ลื้อจะไปเที่ยวทำไมไม่ชวนอั้วล่วย” ผมก็ไม่อยากให้เฮียทิ้งลูกทิ้งเมียไปเที่ยวไง ผมอยู่ตัวคนเดียวอยากไปก็ไป อยากนอนไหนก็นอน เลยไม่อยากรบกวนเฮีย “ไม่ต้องเลย ลื้อเข้ามาหาอั้วก่อน มีเรื่องให้ช่วย เดี๋ยวเรื่องไปเที่ยวอั้วจะไปกะลื้อล่วย”
ผมไปถึงออฟฟิตเฮียตี๋ พบชายวัยกลางคนนั่งรออยู่กับเฮียตี๋ เขาไม่รอช้าแนะนำให้ผมรู้จักว่าเป็นญาติของเฮียตี๋เองอายุน้อยกว่าเฮียตี๋เล็กน้อย มีปัญหากับเมีย เรื่องทรัพย์สิน และมีปัญหาเรื่องของกิจการด้วย เพราะกิจการที่บ้านของแกเป็นบริษัท มีแกกับภรรยาเป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ต้องเซ็นร่วมกัน รวมทั้งต้องเซ็นเช็คร่วมกันด้วย มีลูกน้องหลายสิบคน มีคู่ค้า รวมทั้งเจ้าหนี้ธนาคารที่ต้องจ่ายหนี้ แต่ปัญหาคือ ทะเลาะกับเมียแล้วเมียไม่ยอมเซ็นเอกสารต่างๆให้และไม่ยอมเซ็นเช็คร่วมด้วย งานงอกสิครับ เพราะจ่ายเงินลูกน้องไม่ได้ จ่ายเงินคู่ค้าไม่ได้ จ่ายหนี้แบงค์ก็ไม่ได้ ปรึกษาผมว่าจะทำไงดี
ผมถามว่าบริษัทตั้งมากี่ปีแล้ว แกตอบว่าตั้งแต่ปี 48 ตอนนั้นแกเป็นกรรมการคนเดียว และ เซ็นทุกอย่างคนเดียว แต่พอแกแต่งงาน (เพิ่งแต่งงานตอนแก่) เห็นว่าเมียแกจบปริญญาโทการบริหารธุรกิจมาจากเมืองนอก ไฟแรงอยากบริหารด้วยเลยเอาเข้ามาเป็นกรรมการด้วย และเซ็นทุกอย่างร่วมกัน พอทะเลาะกันก็เกิดปัญหาอย่างที่เห็นล่ะ แล้วเงินในบัญชีบริษัทล่ะเฮียมีเยอะมั๊ย ก็ประมาณ 10 กว่าล้านนี่แหละ ตอนนี้ทำไรไม่ได้เลย แล้วสัดส่วนการถือหุ้นล่ะ เมียของเฮียถือเท่าไหร่ล่ะ อ่อเมียอั้วถือ 40% เขาถือคนเดียว ส่วนฝั่งอั้วถือ 60% ถือ 2 คนคืออั้วกับเฮียตี๋นี่แหละ ผมปิ๊งไอเดียขึ้นมาทันที แต่ก็ถามต่อไปว่า บัญชีเงินฝากบริษัทเฮียนี่มีกี่บัญชีนะ ก่อนที่จะมีกรรมการสองคนเคยมีบัญชีอื่นมั๊ย เฮียแกตอบว่าเคยมี แต่ตอนนี้ไม่ได้ใช้ ตั้งแต่เปิดบัญชีที่เซ็นร่วมกันนี้ไม่ได้ใช้บัญชีนั้นอีกเลย แต่ก็ยังไม่ได้ไปปิด แล้วบัญชีที่เซ็นชื่อเบิกร่วมกันนี่มันถอนเงินได้กี่วิธีล่ะ ถอนโดยเช็คได้อย่างเดียวหรือสามารถถอนโดยทางอินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้งได้ด้วย เฮียบอกว่าสามารถโอนผ่านอินเตอร์เน็ตได้ แต่ไม่กล้าทำกลัวเมียฟ้องข้อหายักยอกเงินของบริษัท
ผมเลยบอกเฮียว่า เฮีย ทางออกของเฮียตอนนี้ที่ทำได้เลยคือ 1) เฮียโอนเงินทางอินเตอร์เน็ต เข้าบัญชีบริษัทอีกบัญชีที่มีอยู่แล้วได้เลยนะ ไม่เป็นยักยอก เพราะก็เป็นบัญชีของบริษัท แล้วเฮียก็ถอนได้คนเดียว ถอนออกมาแล้วนำไปใช้ในกิจการของบริษัท เช่นจ่ายค่าจ้างพนักงาน จ่ายค่าสินค้าให้กับคู่ค้า จ่ายหนี้ธนาคาร ทั้งหมดล้วนเป็นกิจการของบริษัท เงินทุกบาทเราก็ใช้ใจกิจการของบริษัท ไม่เป็นยักยอกหรอกครับเฮีย ประการที่ 2) คือ เฮียบอกกล่าวเรียกประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อปลดกรรมการ เพราะสัดส่วนการถือหุ้นของเฮียมากกว่า สามารถปลดกรรมการได้อยู่แล้ว เพราะถ้าไม่ปลดต่อไปเวลาจะเซ็นต์เอกสารอะไรที่สำคัญๆ จะเกิดปัญหา เฮียทำแค่นี้ล่ะ ปัญหาทุกอย่างในบริษัทก็จบ แต่ปัญหาเรื่องทรัพย์สินนั้นถ้าตกลงกันไม่ได้ก็ต้องไปว่ากันที่ศาลนะ
จบงานแล้วนะเฮีย ผมพูดกับเฮียตี๋ งั้นผมไปล่ะนะ เดี๋ยวสาย เฮียตี๋ไม่รู้ว่าแกเก็บกระเป๋าไว้ตั้งแต่ตอนไหน ยกกระเป๋าขึ้นรถกับผมเลย ไปอั้วไปล่วย ไปเที่ยวกับลื้ออั้วรู้สึกว่าสบายใจดี จิตใจสงบดี อั้วชอบ ผมคิดในใจ “ถาม…สักคำมั๊ยเนี่ยว่าอยากไปด้วยมั๊ย 5555” แต่ก็ไปครับ ไปกับเฮียตี๋ เป็นการฝึกสติชั้นเลิศ เพราะแกบ่นให้ผมฟังตลอดทาง 55555
โดย ทนายนำชัย พรมทา
086-331-4759