ผู้ประกอบการที่ว่าจ้างบริษัททวงหนี้ให้ติดตามทวงหนี้จากลูกค้าที่ค้างชำระ

Published by ทนายสถิตย์ อินตา on

ผู้ประกอบการที่ว่าจ้างบริษัททวงหนี้ให้ติดตามทวงหนี้จากลูกค้าที่ค้างชำระ

ผู้ประกอบการที่ว่าจ้างบริษัททวงหนี้ให้ติดตามทวงหนี้จากลูกค้าที่ค้างชำระ โดยในสัญญาที่ผู้ประกอบการทำกับบริษัททวงหนี้มีข้อตกลงระบุไว้ว่าห้ามมิให้ลูกจ้างของบริษัททวงหนี้ทวงถามหนี้จากลูกค้าของผู้ประกอบการโดยวิธีการที่ผิดกฎหมาย บริษัททวงหนี้ก็มี ระเบียบข้อบังคับไม่ให้ลูกจ้างหรือพนักงานของตนไปทวงถามหนี้จากลูกหนี้โดยวิธีการที่ผิดกฎหมายเช่นกัน

มีปัญหาว่า
1) พนักงานของบริษัททวงหนี้โทรศัพท์มาทวงหนี้ลูกหนี้และแจ้งเรื่องหนี้สินของลูกหนี้ให้แก่บุคคลอื่นที่อยู่ในที่ทำงานของลูกหนี้ทราบ
เช่นนี้เป็นการทวงหนี้ที่ผิดกฎหมายหรือไม่
2) หากตามข้อหนึ่งถือว่าเป็นการทวงหนี้ที่ผิดกฎหมาย อันทำให้ลูกหนี้ได้รับความเสียหาย ลูกหนี้จะเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ใดได้บ้าง

ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภคได้วินิจฉัยในคำพิพากษาที่ 6543 / 2561 ว่า

จำเลยที่หนึ่งเป็นพนักงานของจำเลยที่สามซึ่งได้รับการว่าจ้างจากจำเลยที่สี่ในการติดตามทวงถามหนี้กับลูกค้าที่ผิดนัดชำระหนี้ จำเลยที่หนึ่งได้โทรศัพท์มาทวงหนี้โจทก์และแจ้งเรื่องดังกล่าวให้แก่บุคคลอื่นในโรงเรียนทราบ อันไม่เป็นไปตามแนวปฏิบัติในการติดตามทวงถามหนี้ของธนาคารแห่งประเทศไทยและเป็นการละเมิดต่อโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 420 การที่จำเลยที่สามมอบหมายให้จำเลยที่หนึ่งมีหน้าที่ติดตามทวงถามหนี้จากโจทก์อันเป็นกิจการที่จำเลยที่สามนายจ้างมอบให้จำเลยที่หนึ่งลูกจ้างไปกระทำในทางการที่จ้าง จำเลยที่สามจะอ้างเหตุว่าละเมิดเกิดเพราะจำเลยที่หนึ่งฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับและคู่มือปฎิบัติงานของจำเลยที่สามอันเป็นเรื่องภายในของจำเลยที่หนึ่งและจำเลยที่สามขึ้นต่อสู้โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกหาได้ไม่ เมื่อจำเลยที่หนึ่งทวงหนี้โจทก์โดยจงใจทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายแก่ชื่อเสียง จำเลยที่สามจึงต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์ในผลแห่งละเมิดที่จำเลยที่หนึ่งกระทำไปในทางการที่จ้างตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 425 ส่วนจำเลยที่สี่แม้สัญญาบริการเป็นสัญญาจ้างทำของ แต่สัญญาบริการดังกล่าวมีข้อตกลงในลักษณะจำเลยที่สี่มอบหมายให้จำเลยที่สามไปติดตามทวงถามหนี้จากลูกหนี้ของจำเลยที่สี่แทนจำเลยที่สี่โดยจำเลยที่สามได้รับค่าจ้างจากจำเลยที่สี่เป็นการตอบแทน จำเลยที่สามกับจำเลยที่สี่จึงมีนิติสัมพันธ์กันในลักษณะจำเลยที่สามเป็นตัวแทนของจำเลยที่สี่โดยปริยายโดยมีบำเหน็จในส่วนที่เกี่ยวกับการติดตามทวงถามหนี้จากลูกหนี้ของจำเลยที่สี่อยู่ด้วย เมื่อจำเลยที่สามมอบหมายให้จำเลยที่หนึ่งไปติดตามทวงถามหนี้จากโจทก์ซึ่งเป็นลูกหนี้ของจำเลยที่สี่ ย่อมถือได้ว่าจำเลยที่หนึ่งเป็นตัวแทนของจำเลยที่สี่โดยปริยายในส่วนที่เกี่ยวกับการติดตามทวงถามหนี้จากลูกหนี้ของจำเลยที่สี่เช่นกัน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 797 วรรคสอง และแม้สัญญาระหว่างจำเลยที่สามกับจำเลยที่สี่มีข้อตกลงห้ามมิให้ลูกจ้างของจำเลยที่สามทวงถามหนี้จากลูกหนี้ของจำเลยที่สี่โดยวิธีการที่ผิดกฎหมายประการใดก็ตาม ก็ไม่อาจนำมาใช้ยันโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้ จำเลยที่สี่จึงต้องร่วมรับผิดในการทำละเมิดของจำเลยที่หนึ่งต่อโจทก์ด้วยตามมาตรา 427 ประกอบมาตรา 425

แชร์หน้านี้ !!