กรรมการกู้ยืมเงินบริษัทอาจติดคุก

Published by ทนายสถิตย์ อินตา on

กรรมการกู้ยืมเงินบริษัทอาจติดคุก

กรรมการกู้ยืมเงินบริษัทอาจติดคุก

ทุกท่านครับ  ท่านทราบหรือไม่ว่า กรรมการบริษัทกู้ยืมเงินบริษัท อาจติดคุก 7 ปีได้  ฟังแล้วทุกท่านอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องตลก  แต่คนที่ติดคุกจริงๆ คงไม่คิดเหมือนท่านแน่ๆ  และ เท่าที่ผมเป็นทนายความมาหลายปี ผมเห็นคนที่ติดคุกเพราะเรื่องตลกๆแบบนี้มามากแล้วครับ  วันนี้ผู้เขียนนำเรื่องจริงคดีจริงมาเล่าสู่กันฟัง

คุณดนัย (นามสมมุติ) เป็นวัยรุ่นที่กำลังไฟแรง อยากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง และ ด้วยความที่เป็นคนมีไฟจึงเป็นคนที่ใกล้จะประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย  ก่อร่างสร้างธุรกิจของแกด้วยน้ำพักน้ำแรง โดยได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากเฮียเจ๋ง (นามสมมุติ) เฮียเจ๋งเป็นเศรษฐีที่ดินมีเงินจำนวนมาก เห็นว่าดนัย เป็นคนที่อยากจะประสบความสำเร็จเหมือนกับแกตอนสมัยหนุ่มๆ ก็เลยให้การสนับสนุนทางการเงิน แต่เฮียเจ๋งก็ไม่เคยเข้าไปก้าวก่ายการบริหารจัดการงานของดนัยเลยเพราะเชื่อใจ สัดส่วนการถือครองหุ้นคือ ดนัยถือหุ้น 40% และ เป็นกรรมการบริษัทเพียงผู้เดียว ได้เงินเดือนกรรมการเดือนละ 60,000 บาท เฮียเจ๋งถือหุ้นในบริษัท 60% และ หากบริษัทขาดสภาพคล่อง เฮียเจ๋งยังให้กู้ยืมเงินส่วนตัวเข้ามาเสริมสภาพคล่องอีกด้วย กิจการของดนัยเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทมีกระแสเงินสดเพิ่มขึ้นจำนวนมาก แต่บริษัทก็ไม่เคยปันผลเลยซักครั้งเฮียเจ๋งก็ไม่เคยถามเรื่องการปันผลเพราะเชื่อใจดนัยและก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน ดนัยเห็นว่าเฮียเจ๋งไม่เคยถามเรื่องเงินปันผลเลยเป็นเวลานานแล้ว จึงกันเงินของบริษัทบางส่วนไปซื้อคอนโดส่วนตัว และ ซื้อที่ดินที่จังหวัดเพชรบูรณ์เพื่อสร้างบ้านตากอากาศใช้เงินไปรวมกว่า 15 ล้านบาท โดยตั้งใจว่าจะให้บันทึกบัญชีว่าเป็นเงินยืมกรรมการ เวลาผ่านมาก็เป็นเวลาหลายปี  จู่ๆเฮียเจ๋งก็เกิดสอบถามดนัยถึงเรื่องผลประกอบการบริษัท และ สอบถามเกี่ยวกับการจ่ายเงินปันผล แถมยังขอดูงบการเงินของบริษัทด้วย ดนัยกลัวว่าจะต้องนำเงิน 15 ล้านบาทที่ยืมไปมาคืนบริษัท จึงไม่ให้พนักงานบัญชีลงเงินยืมดังกล่าวในงบการเงิน แต่ให้หาทางบัญชีทำจ่ายออกเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้เงินจำนวน 15 ล้านบาทนั้นหายไปโดยมีที่มาที่ไป เฮียเจ๋งตรวจสอบงบการเงินแล้วเห็นความผิดปกติ จึงจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชีมาตรวจสอบจึงพบว่า ดนัยนำเงินของบริษัทไปใช้ส่วนตัว และ ไม่ลงรายการนั้นในงบการเงินของบริษัท จึงได้ฟ้องดนัยเป็นคดีอาญา ในหลายๆข้อหาด้วยกัน  ทุกท่านทราบหรือไม่ครับว่า กรณีของดนัยนั้น เป็นความผิดฐานใด และต้องรับโทษอย่างไรบ้าง

  • การที่ดนัย นำเงินของบริษัทไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว แล้วปกปิดข้อมูลนั้นไม่ยอมแจ้งให้ผู้ถือหุ้นอื่นทราบ ถือว่าเป็นการยักยอกทรัพย์ของบริษัท ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ ผู้ถือหุ้นทุกคนย่อมเป็นผู้เสียหาย
  • การที่ดนัยมีหนี้ต่อบริษัทแล้วไม่ลงรายการหนี้นั้นในงบการเงินของบริษัท ถือได้ว่าเป็นการลงข้อความเท็จหรือไม่ลงข้อความสำคัญในเอกสารของบริษัท โดยมีเจตนาไม่ให้เฮียเจ๋งรู้ ถือว่ามีเจตนาเพื่อลวงให้ผู้ถือหุ้นเสียประโยชน์อันควรได้ ตามพระราชบัญญัติกำหนดความผิดของห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ พ.ศ.2499 มาตรา 42 มีโทษจำคุก ไม่เกิน 7 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ ผู้ถือหุ้นที่เสียประโยชน์หรืออาจเสียประโยชน์ย่อมเป็นผู้เสียหาย

ทุกท่านอย่าคิดว่าเป็นเรื่องตลกและเป็นไปไม่ได้นะครับ  และหากมีเรื่องในทำนองนี้เกิดขึ้นกับท่าน ขอให้ท่านจงอย่าได้ประมาท คดีประเภทนี้ศาลตัดสินให้ติดคุกจริงๆนะครับ และ ก็มีคนติดคุกจริงเพราะเรื่องทำนองนี้มามากแล้วครับ

 

ทนายนำชัย  พรมทา

โทร. 083-568-1148

ติดตามข่าวสารของเราทาง Facebook : สำนักกฎหมายนำชัย พรมทา
เว็บไซต์ : https://numchailawyer.com
อ่านบทความทั้งหมด : https://bit.ly/2XVVfKQ

โทรปรึกษา ฟรี!
086-331-4759 | 086-847-2297 | 083-568-1148
E-mail : numchailaw.office@gmail.com
Line Official : @numchailawyers

สำนักกฎหมายนำชัยพรมทา, กฎหมาย, นำชัยพรมทา, บทความกฎหมาย, คลังความรู้กฎหมาย, ปรึกษากฎหมายฟรี, ปรึกษาด้านกฎหมาย, จ้างทนายความ

แชร์หน้านี้ !!