คดีแพ่งตาม ป.วิ.พ. มาตรา 4 (1) วางหลักว่า คำฟ้องให้เสนอต่อศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลหรือต่อศาลที่มูลคดีเกิดขึ้นในเขตศาล #กรณีที่คู่สัญญาพิพาทเกี่ยวกับสัญญากู้ยืมเงิน สถานที่ที่มูลคดีเกิดคือที่ใด?
Published by lawyer_admin on
#คดีแพ่งตาม ป.วิ.พ. มาตรา 4 (1) วางหลักว่า คำฟ้องให้เสนอต่อศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลหรือต่อศาลที่มูลคดีเกิดขึ้นในเขตศาล #กรณีที่คู่สัญญาพิพาทเกี่ยวกับสัญญากู้ยืมเงิน สถานที่ที่มูลคดีเกิดคือที่ใด?
#คดีแพ่งตาม ป.วิ.พ. มาตรา 4 (1) วางหลักว่า คำฟ้องให้เสนอต่อศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลหรือต่อศาลที่มูลคดีเกิดขึ้นในเขตศาล #กรณีที่คู่สัญญาพิพาทเกี่ยวกับสัญญากู้ยืมเงิน สถานที่ที่มูลคดีเกิดคือที่ใด?
#คำว่ามูลคดี หมายถึง “ต้นเหตุอันเป็นที่มาแห่งการโต้แย้งสิทธิอันจะทำให้โจทก์เกิดอำนาจฟ้อง” โดยหลัก เมื่อพิพาทเกี่ยวกับสัญญานั้น ไม่ว่าจะเป็นสัญญาที่ทำกันระหว่างบุคคลซึ่งอยู่เฉพาะหน้า หรือสัญญาที่ทำกันระหว่างบุคคลที่อยู่ห่างกันโดยระยะทางก็ตาม คือสถานที่ที่เกิดสัญญา อันได้แก่สถานที่ที่คำสนองไปถึงผู้ทำคำเสนอ ดังนั้น สถานที่ทำคำสนองก็ดี สถานที่ส่งมอบทรัพย์ตามสัญญาก็ดี จึงไม่ใช่สถานที่ที่มูลคดีเกิด ยกเว้น กรณีที่ไม่มีคำสนองโดยชัดแจ้ง (พิจารณา ป.พ.พ. มาตรา 361 วรรคสอง) ถ้าตามเจตนาอันผู้เสนอได้แสดง หรือตามปกติประเพณีไม่จำเป็นจะต้องมีคำบอกกล่าวสนอง ท่านว่าสัญญานั้นเกิดเป็นสัญญาขึ้นในเวลาเมื่อมีการอันใดอันหนึ่งขึ้น อันจะพึงสันนิษฐานได้ว่าเป็นการแสดงเจตนาสนองรับ ดังนั้น สถานที่รับมอบสินค้าเอาไว้จึงถือว่าเป็นสถานที่ที่มูลคดีเกิดขึ้นได้ในกรณีหลังนี้
#สำหรับกรณีพิพาทเกี่ยวกับสัญญากู้ยืมเงิน ได้มีแนวคำพิพากษาฎีกาว่า #นอกจากสถานที่ที่ทำสัญญากู้ยืมเงินจะเป็นสถานที่ที่มูลคดีเกิดขึ้นตามหลักที่ได้กล่าวมานั้นแล้ว ยังมีแนวคำพิพากษาฎีกาที่###ให้ถือว่าสถานที่ส่งมอบเงินเป็นสถานที่มูลคดีเกิดอีกแห่งหนึ่งอีกด้วยเพราะเกี่ยวข้องกับความบริบูรณ์ของสัญญา
อย่างไรก็ดีสถานที่ที่ธนาคารผู้ให้กู้ไปถอนเงินนำมามอบให้แก่ผู้กู้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความบริบูรณ์ของสัญญากู้เงินจึงไม่ใช่สถานที่ที่มูลคดีเกิด และกรณีที่ผู้ให้กู้โอนเงินกู้เข้าบัญชีเงินฝากของผู้กู้ ต้องถือว่าธนาคารที่ได้โอนไปเป็นสถานที่ที่มูลคดีเกิดเพราะเป็นสถานที่ที่ส่งมอบเงินกู้ ส่วนธนาคารของผู้กู้ที่เปิดบัญชีเงินฝากไว้เพื่อรับเงินไม่เป็นสถานที่ที่มูลคดีเกิดด้วย เว้นแต่เป็นกรณีที่เป็นบัญชีเงินฝากที่ผู้ให้กู้และผู้กู้เปิดไว้ร่วมกัน
#คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5298/2551 คำว่า มูลคดีเกิดขึ้น หมายถึง เหตุอันเป็นที่มาแห่งการโต้แย้งสิทธิอันจะทำให้โจทก์มีอำนาจฟ้อง เมื่อโจทก์อนุมัติวงเงินสินเชื่อบุคคลให้แก่จำเลย ณ ที่ทำการของโจทก์ ซึ่งอยู่ในเขตอำนาจของศาลแขวงปทุมวัน ต่อมาจำเลยผิดสัญญาไม่ชำระหนี้ให้แก่โจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย จึงเห็นได้ว่าเหตุอันเป็นที่มาแห่งการโต้แย้งสิทธิที่ทำให้โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยเกิดขึ้น ณ ที่ทำการของโจทก์ซึ่งเป็นสถานที่อนุมัติสินเชื่อ (สถานที่ทำสัญญากู้ยืมเงิน) ให้แก่จำเลย ดังนั้น โจทก์จึงมีอำนาจเสนอคำฟ้องคดีนี้ต่อศาลแขวงปทุมวันได้ ตามมาตรา 4 (1) การที่โจทก์ใช้โทรศัพท์แจ้งเรื่องการอนุมัติสินเชื่อบุคคลให้แก่จำเลย เป็นเพียงการอำนวยความสะดวกให้แก่จำเลยซึ่งเป็นลูกค้าเท่านั้น หาทำให้มูลคดีที่เกิดขึ้น ณ ที่ทำการของโจทก์เปลี่ยนแปลงไปไม่
#คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 145/2553 สาระสำคัญในการกู้ยืมเงินคือการส่งมอบและการทำสัญญาหรือหลักฐานเป็นหนังสือ ดังนั้น การที่โจทก์จะเบิกหรือถอนเงินจากธนาคารใดไปให้จำเลยกู้ยืมเงิน มิใช่สาระสำคัญในการกู้ยืมเงินแต่อย่างใด และตามคำฟ้อง โจทก์ร่วมกับจำเลยเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ไว้ในธนาคารที่อยู่ในท้องที่ที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในขณะทำสัญญา เงินที่โจทก์โอนไปยังไม่เป็นสิทธิของจำเลยเพราะโจทก์ยังมีสิทธิเบิกถอนได้ การที่จำเลยจะรับเงินที่โจทก์ให้กู้ยืมได้จะต้องไปเบิกถอนเงินจากธนาคารดังกล่าว ธนาคารดังกล่าวจึงถือว่าเป็นที่รับมอบเงินที่กู้ยืม จึงเป็นกรณีที่มูลคดีเกิดขึ้นในท้องที่เดียวกับที่จำเลยมีภูมิลำเนาในขณะทำสัญญาและที่ระบุในสัญญากู้ยืมเงินว่าเป็นที่จัดทำสัญญากู้ยืมเงิน
#สำนักกฎหมายนำชัย พรมทา
Contact Us
ทนายนำชัย พรมทา โทร : 086-331-4759
ทนายสถิตย์ อินตา โทร : 083-568-1148
แชร์หน้านี้ !!