การอ้างสำเนาสัญญากู้ยืมแทนต้นฉบับไม่ต้องปิดอากรแสตมป์ก็รับฟังเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งได้หรือไม่?

Published by lawyer_admin on

การอ้างสำเนาสัญญากู้ยืมแทนต้นฉบับไม่ต้องปิดอากรแสตมป์ก็รับฟังเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งได้หรือไม่?

การอ้างสำเนาสัญญากู้ยืมแทนต้นฉบับไม่ต้องปิดอากรแสตมป์ก็รับฟังเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งได้ ⚖️

🔹จ่ายเงินไม่ครบตามสัญญากู้ เช็คที่จ่ายคืนเงินที่กู้ยืมไม่อาจแบ่งแยกได้ว่าฉบับใดไม่ต้องรับผิด เช็คทั้งหมดจึงเป็นเช็คที่มีส่วนของหนี้ที่ไม่มีอยู่จริงไม่อาจบังคับได้ ผู้สั่งจ่ายเช็คจึงไม่มีความผิดทางอาญา ตาม พ.ร.บ.เช็ค ⚖️

📣 คำพิพากษาศาลฎีกาที่ :

5037/2565 ตาม ป. รัษฎากร มาตรา 118 บัญญัติว่า “ตราสารใดไม่ปิดแสตมป์บริบูรณ์ จะใช้ต้นฉบับ คู่ฉบับ คู่ฉีก หรือสำเนาตราสารนั้นเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้ จนกว่าจะได้เสียอากรโดยปิดแสตมป์ครบจำนวนตามอัตราในบัญชีท้ายหมวดนี้และขีดฆ่าแล้ว” โจทก์นำสืบสำเนาสัญญากู้ยืมเป็นพยานต่อศาล ซึ่งตาม ป.รัษฎากร มาตรา 118 ไม่ได้ระบุให้ปิดอากรแสตมป์ที่สำเนาเอกสาร และบัญชีอากรแสตมป์ท้ายหมวด 6 แห่ง ป.รัษฎากรไม่มีอัตราอากรแสตมป์สำหรับสำเนาตราสารกู้ยืมเงินเพื่อปิดอากรแสตมป์ ดังนั้น การรับฟังสำเนาสัญญากู้ยืมเงินแทนต้นฉบับสัญญากู้ยืมเงินตาม ป.วิ.พ.มาตรา 93(2) ไม่ต้องปิดอากรแสตมป์ที่สำเนาสัญญากู้ยืมเงิน

(หนังสือ) กฎหมายที่เกี่ยวข้อง :

🔹ป.วิ.พ.มาตรา 93 (2)

🔹ป.รัษฎากร มาตรา 118

📣 คำพิพากษาศาลฎีกาที่ :

4826/2565 หนี้ตามสัญญากู้ยืมเงินต้องเป็นหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย เมื่อโจทก์จ่ายเงินกู้ให้แก่จำเลยและโอนเงินจ่ายให้ผู้รับเหมาช่วงของจำเลย รวมเป็นเงินที่จ่ายไปยังไม่ครบจำนวนตามที่ระบุไว้ในสัญญากู้ยืมเงิน จึงมีผลบังคับได้ตามกฎหมายในจำนวนเงินกู้เพียงเท่าที่โจทก์ได้จ่ายไปจริง เช็คที่จำเลยสั่งจ่ายทั้ง 5 ฉบับรวมเป็นเงินเต็มตามจำนวนในสัญญากู้ยืมเงิน ซึ่งรวมมูลหนี้ทั้งหมดไม่อาจแบ่งแยกได้ว่ามีเช็คฉบับใดออกเพื่อชำระหนี้เงินกู้ส่วนที่โจทก์จ่ายให้แก่จำเลยและโอนจ่ายให้ผู้รับเหมาช่วงของจำเลยไปแล้ว และเช็คฉบับใดมีหนี้ที่จำเลยไม่ต้องรับผิดอยู่ เมื่อเช็คพิพาท 2 ฉบับเป็นเช็คที่รวมอยู่ในเช็คทั้ง 5 ฉบับดังกล่าว โดยมีมูลหนี้ที่ไม่อาจบังคับได้ตามกฎหมายระคนปนกันอยู่ในจำนวนเงินตามเช็คพิพาททั้ง 2 ฉบับด้วย จึงเป็นการออกเช็คชำระหนี้ที่มีส่วนของหนี้ที่ไม่มีอยู่จริงและไม่อาจบังคับได้ตามกฎหมายรวมอยู่ในเช็คพิพาท การออกเช็คพิพาท 2 ฉบับของจำเลยจึงไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 มาตรา 4 (1) ปัญหาดังกล่าวแม้จำเลยไม่ได้กล่าวอ้างมาในอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 185 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 195 วรรคสอง,215

(หนังสือ) กฎหมายที่เกี่ยวข้อง :

🔹ป.วิ.อ.มาตรา 185 วรรคหนึ่ง,195 วรรคสอง,215

🔹พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 มาตรา 4

🖌🖍 แม้หนังสือสัญญากู้เงินปิดอากรแสตมป์ไม่ครบถ้วน ซึ่งเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้ แต่เมื่อจำเลยให้การว่าได้กู้ยืมเงินโจทก์ไปจริง แต่อ้างว่าโจทก์ไปเติมตัวเลขมากกว่าเงินที่จำเลยกู้ไป ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่าจำเลยกู้เงินไปจริงโดยไม่จำต้องอาศัยหนังสือสัญญากู้เงินตามกฎหมายใหม่เป็นหลักฐานในคดี โจทก์มีเพียงภาระการพิสูจน์ว่าจำเลยกู้เงินจากโจทก์ไปตามฟ้อง ตามฎีกา 3234/2565

#สำนักกฎหมายนำชัย พรมทา
Contact Us
ทนายนำชัย พรมทา โทร : 086-331-4759  
ทนายสถิตย์ อินตา โทร : 083-568-1148

ติดตามข่าวสารของเราได้ทาง
Facebook : สำนักกฎหมายนำชัย พรมทา

เว็บไซต์ : https://numchailawyer.com/

อ่านบทความทั้งหมด : https://bit.ly/2XVVfKQ
📧E-mail : numchailaw.office@gmail.com
.

แชร์หน้านี้ !!